มิคาเอล่าอวตาร หนึ่งในตัวที่เรียกว่าน่าใช้สุดในเวอร์ชั่นทรานเทวทูตก็ว่าได้ ใช้ได้ยาวถึงช่วงโบเด็นโดยเฉพาะโหมดตัวต่อตัว ครบเครื่องทั้งสกิลโจมตีที่รุนแรง ทำให้เป้าหมายโจมตีใส่ตัวเอง ป้องกันตัวจากสายโจมตีระยะใกล้ (สายนักรบ, โจร) ฟื้นเลือดตนได้ และอื่นๆ
Table of Contents
จุดเด่น
ท้าต่อยด้วย Challenge : สกิลบังคับตายของมิคาเอล่า เพราะแทบไม่มีใครสู้กับเธอหลังใช้สกิลนี้ได้ (ยกเว้นจังหวะผิดจริงๆ) ค่อนข้างเก็บ Kill แน่นอน ถ้าล้มศัตรูได้ทำให้เธอเก่งขึ้นระยะเวลาหนึ่งด้วย ผลของสกิลยังถ่วงเวลาศัตรูได้ดี อีกทั้งทำให้ศัตรูที่ถูกฆ่าไม่แสดงผลของสกิลตอนตาย (เสือ,ไบร์คสปาร์ค,ฟรีเดอริก, คิมาเอล ฯลฯ)
สกิลรุนแรงมาก: ทุกสกิลความแรงสูงกว่าแทบทุกตัวในช่วงเทวทูต แถมไม่มีเงื่อนไขแบบต้องแยกร่างก่อน, เสียเวลาบัฟตัวเอง หรือ ใช้สกิลนี้ก่อนถึงจะแรงขึ้น แบบหลายคน ซึ่งความแรงไม่ได้มีแค่สกิลความเสียหายปกติ ยังมี ความเสียหายตายตัว ที่รุนแรง แถมยังมีดีบัฟสร้างความเสียหายกลับคืนสู่เจ้าของ อีกทั้งยังฟื้นเลือดได้จากความเสียหายที่สร้าง ทำให้ลดโอกาสตายไปได้มาก
ทนต่อสายโจมตีระยะใกล้: ถือเป็นตัวแรกที่มาพร้อมสกิลลดความเสียหายแบ่งตามประเภท ซึ่ง “โจมตีระยะประชิด” ซึ่งเป็นสาย STR ทั้งหมดในเกม, สาย Dex ที่ตีใกล้แบบโจร (เกรย์โซล) ซึ่งการลด 50% ทำให้ได้เปรียบฝ่ายตรงข้ามมาก
บทบาท
ถือว่าเป็นตัวเด่นในโหมด PVP มากตัวหนึ่งโดยเฉพาะ 1 ต่อ 1 ที่เก็บฝ่ายตรงข้ามได้ค่อนข้างแน่นอนด้วย Challenge สู้กับสายมีดได้ทุกตัวยาวไปถึงทรานผู้กล้า ในอารีน่ากับกิลด์แบทเทิลถือว่าเวิร์คในระยะหนึ่ง
ด้านบอสไม่ค่อยเวิร์ค สกิล Challenge พอใช้ทำความเสียหายบอสได้แรงจึงอาจพอลงบอสได้ในช่วงแรก (สำหรับบางทีม) แต่ไม่ได้ดีกว่าพวกสายบอสโดยตรงนัก อีกทั้งใส่การ์ดตีบอสแรงขึ้นก็ไม่คุ้ม เอาไปลงอารีน่า/PVPตรงๆ น่าจะดีกว่า
ข้อเสียอยู่ตรงการรับมือสายเวท ซึ่งมิคาเอล่าไม่มีสกิลป้องกันตัว ทำให้มีโอกาสตายได้เร็ว อย่าง Transcended Fryderyk และตัวสายเวทตนอื่นๆ ในอารีน่า/วอร์ไม่เวิร์คในระยะยาวด้วยเหตุผลที่เน้นโจมตีทีละ 1 ตัว ต่างจากตัวหลังๆ ที่เก็บได้ยกทีม
สกิล
* สีส้ม คือ ส่วนที่บัฟความสามารถในแพตช์ Ultimate
Normal Attack (PHY/Melee)
- เป้าหมายติดดีบัฟ “คืนความเสียหาย” ระยะเวลาหนึ่ง (น่าจะ 12 วินาที ตามสกิล A2)
- ดีบัฟ “คืนความเสียหาย” ทำให้ศัตรูได้รับความเสียหาย 35% ของที่โจมตีใส่ฝ่ายเรา (ตามคำอธิบายสกิล A2)
- (ผลจาก Passive 1) โจมตีธรรมดา สร้างความเสียหาย 100% (ไม่ถูกลดลงจากผลลดความเสียหายของศัตรู)
Fist of the White Lotus (PHY/Melee) (Active 1) [CD: 16.3 sec]
- ล้างบัฟทั้งหมดของเป้าหมาย สร้างความเสียหาย 6810% ด้วยความแม่นยำ 100% แล้วสตั๊น 8 วินาที
- (ผลจาก Passive 1) ความเสียหายเพิ่มขึ้น +3319%
Wind of the Tiger and Dragon (PHY/Melee) (Active 2) [CD: 21.6 sec]
- สร้างความเสียหาย 3652% ใส่ศัตรูทั้งปาร์ตี้ และทำให้ติดสถานะ “คืนความเสียหาย” เป็นเวลา 12 วินาที
- (ผลจาก Passive 1) ความเสียหายเพิ่มขึ้น +2030%
Challenge (Active 3) [CD: 29 sec]
- บัฟตนเอง เพิ่ม ATK 447%, ATK Spd 109%, โจมตีแบบตายตัว 224%, โจมตีบอสแรงขึ้น 364%, กันสถานะทุกชนิด และลดความเสียหายลง 67% มีผล 12 วินาที
- เลือกศัตรู 1 ตัว แล้วล้างบัฟทั้งหมดบนตัวศัตรู สู้กับศัตรูแบบตัวต่อตัว โดยมิคาเอล่าจะโจมตีแบบปกติเท่านั้น
- ระหว่างผลสกิล ทั้งสองฝ่ายนอกจากตนเองและเป้าหมาย จะอยู่ในสภาพหยุดนิ่ง (เหมือนหยุดเวลา) จนกว่าการต่อสู้จะจบลงหรือผลสกิลหมด
- (ผลจาก Passive 1) ถ้าจัดการศัตรู จะได้รับบัฟเพิ่มความเสียหายแบบตายตัวอีก 287% และคูลดาวน์สกิลเร็วขึ้น 50% มีผล 8 วินาที พร้อมทำให้เป้าหมายที่ถูกเธอสังหาร ไม่สามารถใช้สกิลที่มีผลตอนตายได้
Beauty of Demolition (Passive 1)
- ผู้พิทักษ์ช่วยเสริมความสามารถให้ ทำให้การโจมตีปกติและสกิลต่างๆ มีผลมากขึ้น (ดูในวงเล็บด้านบน)
- ผู้พิทักษ์ ไม่นับเป็นร่างแยกหรือซัมม่อน จึงไม่สามารถถูกโจมตีหรือลบล้างได้
Extreme Body (Passive 2)
- ลด Dex ฝ่ายศัตรู 30%
- เพิ่ม Dex 10% ให้กับตน ต่อจำนวน Transcended Angel ในทีม
- ดูดเลือด 30% จากความเสียหายที่เธอสร้าง
Ki Barrier (MAX)
- ลดความเสียหายการโจมตีประเภท Melee (โจมตีระยะใกล้) ลง 50%
- การโจมตีทุกอย่าง มีความเสียหายตายตัว +500%
Ultimate
- ระหว่างโจมตีปกติ มีโอกาสใบ้ศัตรู 3 วินาที
- ทุกครั้งที่โดนเวท จะได้ P.DMG +25%, โดนM.DMG -10% นาน 9 วินาที ล้างดีบัฟไม่ได้
- CD: 2 วิ
TIP / เรื่องควรรู้
- ผลของ Challenge ทำให้ตัวละครหยุด แต่ไม่หยุดคูลดาวน์สกิล บัฟ และดีบัฟ
- Challenge ช่วยซื้อเวลาในสงครามกิลด์ได้ดี ทำให้มีเวลาคิดในการสลับตัวละครมากขึ้น (ดูคลิปล่าง)
- บางครั้ง Challenge จะไม่ส่งผลต่อบางตัวละครที่ไม่ได้ท้าสู้ซึ่งอาจเป็นบั๊ก แต่บางครั้งก็ไม่ใช่บั๊ก อย่างบางตัวละครที่ใช้สกิล Channeling อยู่ เช่น A3 ของ Transcended Brightspark, Transcended Deathcrown และ Transcended Kymael จะไม่หยุดจากผลสกิลนี้แต่อาจหยุดหลังร่ายเสร็จแล้ว (ในคลิปด้านล่าง สังเกตว่า Trancended Kymael ไม่ถูกหยุดตอนใช้สกิล แต่หยุดหลังร่ายเสร็จ)
- Challenge สามารถใช้กับทุกเป้าหมายที่ล็อคได้ รวมทั้งซัมม่อนของ Transcended Ravengale ทำให้เสียสกิลโดยไม่ค่อยมีประโยชน์ได้เช่นกัน