Skip to content

The Last of Us Season 1 รวมคลิปเปรียบเทียบทีวี VS เกม

  • by
The Last of Us TV Season 1 Comparision

เดอะลาสต์ออฟอัส ถือเป็นละครโทรทัศน์จากเกมเรื่องหนึ่งที่ทำได้ใกล้เคียงต้นฉบับมาก แล้วยังสนุกสำหรับคนที่ไม่เคยดูมาก่อน จนเป็นเรื่องที่มาแรงในปี 2023 รับชมได้ทาง HBO Go ภาคแรกมี 9 ตอนจบ

เรื่องย่อของ The Last of Us เกี่ยวกับหลังวันสิ้นโลกของอเมริกา 20 ปีต่อมา หลังจากเกิดการระบาดใหญ่ของเชื้อรา จากการกลายพันธุ์ของเชื้อราในสกุล Cordyceps ซึ่งเกิดการระบาดไปทั่วโลก โจเอล ชายผู้รอดชีวิตที่มีจิตใจด้านชา ได้รับว่าจ้างให้พาตัวเอลลี เด็กหญิงวัย 14 ปี ออกจากเขตกักกันโรคที่มีการควบคุมอย่างแน่นหนา แต่แล้วงานจ้างที่คล้ายจะไม่สลักสำคัญก็กลับกลายเป็นการเดินทางอันโหดร้ายบีบคั้นหัวใจ เมื่อทั้งสองต้องเดินทางข้ามสหรัฐและพึ่งพากันและกันเพื่อความอยู่รอด

* สปอยล์สรุปเนื้อหาแต่ละตอน แปลจาก Wikipedia (Episodes)

 

ตอนที่ 1 When You’re Lost in the Darkness เมื่อความมืดพาหลงทาง

เมื่อปี 1968 เคยมีการพูดถึง รา Cordyceps ที่อันตรายกว่า แบคทีเรียและไวรัส เพราะสามารถคุมสมองสัตว์ขนาดเล็กแบบมดได้ เพียงแต่ยังไม่เหมาะสมตามสภาพอากาศ จึงยังไม่มีผลกับมนุษย์

ในปี 2003 การติดเชื้อรา Cordyceps กลายพันธุ์ทำให้เกิดโรคระบาดไปทั่วโลก มนุษย์เข้าทำร้ายกันเอง โจ (โจเอล / Joel) หนีไปกับลูกสาวของเขา ซาร่าห์ และน้องชาย ทอมมี่ จากบ้านของพวกเขาในเท็กซัส ซาราห์ที่มีรอยแผลระหว่างหลบหนี เธอถูกสังหารโดยทหารต่อหน้าพ่อและอาของตน

20 ปีต่อมา โจ อาศัยอยู่ในเขตกักกันโรค (QZ) ในบอสตัน ซึ่งบริหารงานโดย Federal Disaster Response Agency (FEDRA) โดยทำงานเป็นผู้ลักลอบขนของเถื่อนกับเทสส์ หุ้นส่วนของเขา เมื่อติดต่อทอมมี่ไม่ได้ พวกเขาจ่ายเงินให้โรเบิร์ตซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่นเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ แต่เขากลับหลอกลวงพวกเขาและขายให้กับกลุ่ม Fireflies (ไฟร์ฟลาย) ซึ่งเป็นกลุ่มกบฏที่ต่อต้านเฟดรา

โจและเทสส์พยายามเอาของคืน ได้พบกับมาร์ลีน ผู้นำ Fireflies ซึ่งขอร้องให้พวกเขาพาวัยรุ่นชื่อเอลลีไปที่สภาแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์เพื่อแลกกับรถบรรทุกที่ใช้ได้ ขณะที่แอบออกจาก QZ ทั้งสามก็พบกับทหารคนหนึ่งที่อยู่ด้านนอก เขาตรวจหาเชื้อและพบว่าเอลลีเป็นบวก โจรีบฆ่าทหาร ส่วนเอลลีอ้างว่ามีภูมิคุ้มกันและให้เขาไว้ชีวิต

* เนื้อหาภาคเกมจะอยู่ในปี 2013 และ 2033 แต่เนื่องจากให้สอดคล้องกับปัจจุบัน จึงเปลี่ยนปีเป็น 2003 – 2023


ตอนที่ 2 Infected ผู้ติดเชื้อ

2 วันก่อนการระบาดทั่วโลกในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย รัฐบาลได้แสดงศพที่ติดเชื้อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเห็ดวิทยาดู ซึ่งเธอบอกว่าไม่มียารักษาหรือวัคซีน แนะนำหนทางหยุดทางเดียว คือ ให้วางระเบิดเมืองเพื่อป้องกันการระบาด

ในปัจจุบัน เอลลี่ อธิบายให้ โจ และ เทส ฟังว่าเธอกำลังถูกส่งตัวไปทางตะวันตกด้วยความหวังว่าจะใช้เลือดในการรักษาได้ เมื่อพบว่าเส้นทางสู่ทำเนียบรัฐบาลเต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อ พวกเขาตัดผ่านพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ซึ่งพวกเขาถูกโจมตีโดยผู้ติดเชื้อตาบอดระยะ 3 ที่รู้จักกันในชื่อ “คลิกเกอร์”

พวกเขามาถึงทำเนียบรัฐบาลแต่พบว่ากลุ่ม Fireflies ถูกฆ่าหมดแล้ว เทสส์เปิดเผยว่าเธอถูกกัด ต่างจากรอยที่เพิ่งถูกกัดของเอลลี ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงภูมิคุ้มกันของเธอ

เมื่อผู้ติดเชื้อจำนวนมากบุกเข้าตึก เทสส์เกลี้ยกล่อมให้เขาหนีและพาเอลลีไปหาพรรคพวกในเมืองลินคอล์น รัฐแมสซาชูเซตส์ ขณะที่เธออยู่ข้างหลัง ระเบิดตึกและฆ่าตัวตายพร้อมกับฝูงชน

เทียบฉาก


ตอนที่ 3 Long Long Time นานแสนนาน

โจและเอลลีเริ่มปีนเขาเพื่อพบกับบิลและแฟรงก์ เอลลีเห็นหลักฐานการประหารชีวิตผู้บริสุทธิ์ของรัฐบาลในช่วงวันแรกๆ ของการแพร่ระบาด

ย้อนกลับไปในปี 2007 แฟรงก์ออกจากบัลติมอร์อาศัยตามลำพัง จนกระทั่งบิล ผู้หวาดระแวงเอาชีวิตรอดที่รับเขาเข้ามาอย่างไม่เต็มใจ ทั้งสองคนเริ่มต้นความรักด้วยการแบ่งปันความรักในดนตรีและอาหาร หลายปีต่อมา แฟรงก์ติดต่อเทสทางวิทยุ และทั้งสองกลุ่มก็ได้เข้าสู่มิตรภาพที่จืดจาง จนในปัจจุบัน แฟรงก์ป่วยหนักและขอให้บิลช่วยฆ่าตัวตายหลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานกัน บิลไม่อยากอยู่โดยไม่มีแฟรงก์ก็ฆ่าตัวตายด้วยยาพิษ

เมื่อโจและเอลลีมาถึง พวกเขาพบจดหมายที่บิลทิ้งไว้ให้โจ บิลเขียนว่าการปกป้องแฟรงก์ทำให้ชีวิตของเขามีความหมาย เขาได้ทิ้งเสบียงของโจไว้ เอลลีแอบเก็บปืนพกของแฟรงก์เอาไว้โดยโจไม่ทันสังเกต ทั้งสองขึ้นรถบรรทุกของบิลและออกเดินทางตามหาทอมมี่

* เป็นตอนที่เพิ่มเนื้อหาจากต้นฉบับเกม


ตอนที่ 4 Please Hold to My Hand โปรดจับมือให้มั่น

การเดินทางผ่านรัฐมิสซูรี โจและเอลลีถูกบังคับให้อ้อมผ่านแคนซัสซิตี้ ซึ่งพวกเขาถูกซุ่มโจมตี โจฆ่าโจรสองคน แต่หนึ่งในสามเอาชนะเขาและเกือบทำให้เขาหายใจไม่ออก ก่อนที่เอลลีจะช่วยเขาด้วยการยิงชายคนนั้นด้วยปืนพกของแฟรงค์ ก่อนโดนยึดปืนไป

แคธลีนหัวหน้าของพวกเขาเชื่อว่าโจและเอลลีอาจติดต่อกับชายชื่อเฮนรีและสั่งให้ตามล่า โจแนะนำเอลลีเกี่ยวกับการยิงต่อสู้และคืนปืนพกให้เธอ เพอร์รีผู้บังคับบัญชาคนที่สองของแคธลีนคิดว่าเขาพบที่ซ่อนของเฮนรีแล้ว แต่มีบางอย่างเติบโตใต้อาคาร แคธลีนสั่งให้เก็บเป็นความลับจนกว่าจะพบเฮนรี่

โจและเอลลีนอนในอพาร์ตเมนต์สูงระฟ้าในคืนนี้ โดยหวังว่าพวกเขาจะสามารถสำรวจทางออกจากเมืองได้ในเวลากลางวัน พวกเขาตื่นขึ้นมาพบว่าเฮนรี่และแซมน้องชายของเขาจับพวกเขาด้วยจ่อ


ตอนที่ 5 Endure and Survive ยืนหยัดและอยู่รอด

เฮนรี่และแซมสงบศึกชั่วคราวกับโจและเอลลี เฮนรี่เสนอให้พวกเขาหนีออกจากเมืองไปด้วยกันโดยใช้เส้นทางอุโมงค์ใต้ดินที่มีแต่เฮนรี่เท่านั้นที่รู้ เฮนรี่สารภาพกับโจว่าเขามีส่วนรับผิดชอบต่อการตายของพี่ชายของแคธลีน โดยส่งตัวเขาให้กับ FEDRA เพื่อแลกกับยารักษาลูคีเมียของแซม

หลังจากหลบหนีออกจากอุโมงค์ กลุ่มก็ถูกโจมตีโดยมือปืนจากหน้าต่างชั้นบน โจลอบเข้ามาและฆ่าเขา แต่พบว่าเขากำลังส่งวิทยุให้แคธลีนซึ่งมาพร้อมกับกองทหารรักษาการณ์ของเธอ ก่อนที่แคธลีนจะฆ่าเฮนรี่ได้ กลุ่มผู้ติดเชื้อก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ดิน รวมทั้ง “ตัวพอง” ขนาดใหญ่ที่ตัดหัวเพอร์รี่ และคลิกเกอร์เด็กที่ขย้ำแคธลีน

หลังจากทั้งกลุ่มหนีไปยังห้องเช่า แซมแสดงให้เอลลีเห็นว่าเขาถูกกัดที่ขาและใช้เลือดเธอป้ายโดยหวังว่าเขาจะไม่เป็นอะไร แต่เช้าวันรุ่งขึ้น แซมแสดงอาการและโจมตีเอลลี เฮนรี่ฆ่าน้องชายตนก่อนที่จะฆ่าตัวตาย Joel และ Ellie ฝังพวกเขาและออกเดินทางโดยมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก


ตอนที่ 6 Kin เครือ

3 เดือนหลังจากการเสียชีวิตของเฮนรี่และแซม โจและเอลลีไปถึงชุมชนเล็กๆ ที่เจริญรุ่งเรืองในแจ็คสัน รัฐไวโอมิง ที่ซึ่งโจได้พบกับทอมมี่อีกครั้ง ซึ่งมาเรียภรรยาของเขากำลังตั้งครรภ์

เอลลีรู้ชะตากรรมของซาราห์จากมาเรีย โจไว้ใจทอมมี่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันของเอลลีและสภาพจิตใจที่ตกต่ำของเขาเอง โจขอให้ทอมมี่พาเอลลี่ไปส่งพวกไฟร์ฟลาย เพราะเขากลัวว่าจะปกป้องเธอไว้ไม่ได้ เอลลี่ได้ยินและแสดงความไม่พอใจ ในตอนเช้า โจเปลี่ยนใจ

ทั้งสองก็ขี่ม้าไปโคโลราโด พวกเขาพบว่า Fireflies ย้ายฐานไปแล้ว ซึ่งอาจย้ายไปที่โรงพยาบาลในยูทาห์ โจและเอลลีพยายามหลบหนีจากกลุ่มผู้บุกรุก เมื่อหนึ่งในนั้นโจมตี โจเอลจึงฆ่าเขาแต่ถูกแทงระหว่างการต่อสู้ ทั้งสองหลบหนีได้แต่โจก็ล้มลง ปล่อยให้เอลลี่ต้องหาวิธีช่วยเหลือ


ตอนที่ 7 Left Behind ทิ้งเอาไว้

เอลลี่ ดูแล โจ ที่ได้รับบาดเจ็บหลบอยู่ในบ้านร้าง ขณะที่ โจ ใกล้จะถึงแก่ความตาย เขาขอร้องให้ เอลลี่ หนีไปก่อน เธอต้องตัดสินใจ

เอลลี่นึกย้อนไปถึงช่วงโรงเรียนการทหาร FEDRA ซึ่งเธอเรียนร่วมกับ ไรลีย์ อาเบล (Riley Abel) เพื่อนสนิทของเธอ ในขณะที่ เอลลี่ สร้างปัญหาและทะเลาะกับเพื่อนๆ ของเธอ ไรลีย์ ก็วิ่งหนีและหายตัวไปเป็นเวลาสามสัปดาห์ ไรลีย์แอบกลับเข้าไปในหอพักและบอกเอลลีว่าเธอเข้าร่วมกลุ่ม Fireflies เธอพา เอลลี่ ไปที่ห้างสรรพสินค้าร้าง ที่ซึ่งพวกเขาสำรวจตู้ถ่ายรูป เกมอาร์เคด และม้าหมุน ไรลีย์บอกเอลลีว่าพวก Fireflies มอบหมายให้เธอทำงานในแอตแลนตา และเป็นคืนสุดท้ายที่เธออยู่ในบอสตัน ในขณะที่ เอลลี่ ไม่พอใจในตอนแรก เธอเกลี้ยกล่อมให้ ไรลีย์ อยู่ต่อ และพวกเขาก็จูบกัน ผู้ติดเชื้อโจมตี ถึง เอลลี่ ก็สามารถฆ่ามันได้ แต่ทั้งคู่ก็ถูกกัดระหว่างการต่อสู้ พวกเขาตัดสินใจอยู่ด้วยกันทั้งน้ำตาและรอให้การติดเชื้อเข้าครอบงำแทนการจบชีวิตตน

ในปัจจุบัน เอลลี่ ตัดสินใจหาเข็มเย็บผ้า แล้วเริ่มเย็บบาดแผลของ โจ

* เนื้อหาใช้จากส่วนเสริมของเกม The Last of Us: Left Behind เสริมเรื่องราวของเอลลี่ในภาคที่ 1


ตอนที่ 8 When We Are in Need ยามเราต้องพึ่งพา

ขณะที่ออกล่าเพื่อหาอาหารให้โจที่ยังไม่ได้สติ เอลลีได้พบกับ เดวิด และ เจมส์ เธอเอากวางที่เพิ่งยิงได้ไปแลกกับยาเพนิซิลลิน

ระหว่างรอยา เดวิดอธิบายว่าหลังการสู้ระหว่างกลุ่ม Fedra และ Firefly ทำให้เขากลายเป็นเป็นผู้นำของกลุ่มรอดชีวิต บอกเรื่องตนเคยพบพระเจ้าหลังจากวันสิ้นโลก และพูดถึงอเล็กซ์คนในกลุ่มที่เพิ่งโดนฆ่าโดยโจ หลังได้ยา เอลลี่ รีบจากไปและฉีดให้โจ

วันต่อมา เดวิดและพรรคพวกตั้งใจจับพวกโจไปตัดสินโทษ เธอหนีเพื่อดึงพวกเขาออกห่างจากโจที่ยังลุกไม่ได้ แต่เธอถูกเจมส์ยิงม้าทำให้โดนจับ เดวิดห้ามพรรคพวกฆ่าเธอ ส่วนด้านโจ เริ่มพอลุกไหวและจัดการกลุ่มคนที่ล่า รวมถึงเค้นข้อมูลจากคนที่จับได้เพื่อตามเอลลี่ไป

ที่แคมป์ของเดวิด เอลลี่โดนขังกรงและสังเกตเห็นชิ้นส่วนมนุษย์ ทำให้ทราบว่าเรื่องฆ่าคนมาเป็นอาหารให้คนในแคมป์ และพระเจ้าที่เดวิดนับถือ คือ Cordyceps เอลลี่พยายามหนีโดยสร้างแผลและหักนิ้วเดวิด ทำให้เขาเปลี่ยนใจไม่ไว้ชีวิตเธอ ด้านโจได้พบที่ชำแหละเนื้อมนุษย์ระหว่างทาง

เดวิดและเจมส์พยายามฆ่าเอลลี เธออ้างเรื่องติดเชื้อและเขาก็ติด ระหว่างสับสนเปิดโอกาสฆ่าเจมส์แล้วหลบหนี ก่อนจัดการเดวิดที่ตามมาด้วยมีด โจพบเอลลี่และปลอบเธอ ก่อนออกเดินทางต่อไปด้วยกัน

* Troy Baker ผู้ให้เสียงโจในวีดีโอเกม รับบทเป็น เจมส์ ตัวละครในตอนที่ 8


ตอนที่ 9 Look For The Light จงตามแสงสว่างไป (ตอนจบ)

แอนนาก่อนคลอดได้ถูกผู้ติดเชื้อกัด แล้วคลอดเอลี่ออกมา เธอให้มาร์ลีนดูแลลูกสาวตนโดยอ้างว่าตัดสายรกก่อนโดนกัด ฝากมีดให้ลูก และให้มาร์ลีนจบชีวิตตน

ปัจจุบันช่วงฤดูใบไม้ผลิ กลุ่มฟลายไฟร์ ได้ทำการจับกุมเอลลี่และทำให้โจหมดสติ เมื่อโจตื่นขึ้นได้ทราบเรื่องจากมาร์ลีนที่พวกศัลยแพทย์เตรียมจะผ่าตัดเพราะเชื่อว่า คอร์ดิเซพส์ที่โตในสมองเอลลี่เป็นสิ่งที่ทำให้เธอไม่ติดเชื้อ จึงจะผ่าจากสมองไปเพาะเลี้ยงเพื่อช่วยทุกคนได้ แต่เอลลี่ต้องตาย อีกทั้งไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะรักษาคนอื่นได้

โจ ตัดสินใจขัดขืนก่อนปล่อยตัว โดยฆ่าทุกคนในโรงพยาบาลทั้งหมด ทั้งกองกำลังทหาร หัวหน้าศัลยแพทย์ รวมทั้งจบชีวิตมาร์ลีนที่พยายามเจรจา เพื่อไม่ต้องการให้ใครตามทั้งสองมาอีก

เมื่อ เอลลี่ ตื่น โจ โกหกเรื่องที่พวกนั้นเคยเจอคนมีภูมิต้านทานเป็นสิบแล้วใช้วิธีนั้นช่วยคนอื่นไม่ได้ ก่อนถึงหมู่บ้าน เอลลี่ ผิดหวังจากที่ต้องสละชีวิตคนมากมายและให้โจสาบานสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกฟลายไฟร์ เขาสาบานว่าสิ่งที่เคยพูดนั้นเป็นความจริง

* Ashley Johnson ผู้ให้เสียงเอลลี่ในเกม แสดงเป็นแอนนา


Gameplay

 THE LAST OF US PART 1 รวม DLC โดยช่อง MKIceAndFire

สรุปเนื้อเรื่องเกม The Last of Us Part II

 

ที่มา: Wikipedia, ช่อง IGN