Skip to content

Transcended King Gram

  • by

Active Skill 1

Active Skill 2

Active Skill 3

Normal Attack

• เมื่อบัฟ Fury เต็ม, ล้างบัฟศัตรู, ฝ่ายศัตรูโดน 4110% + 9219% ของความเสียหายที่แกรมเคยได้รับก่อนใช้สกิล A1, ดีบัฟฝ่ายศัตรู โดนP.DMG+38%, DoT 360% นาน 14 วินาที (ล้างบัฟไม่ได้)
CD: 5.2 sec
• ใน 12 วินาที ตน STA +100%, อัตราฟื้น HP+100%, ล่อศัตรู, เพิ่ม Fury ทุก 3 วินาที, ฟื้น HP 5% (ล้างบัฟไม่ได้)
CD: 19.8 sec
• ฝ่ายศัตรูโดน 4138% ติดสถานะหวาดกลัว 15.4 วินาที
* ผลสถานะหวาดกลัว = สตั๊น + โดนDMG เพิ่ม 45%
CD: 23 sec
เพิ่ม STA และบัฟ Fury

Passive Skill 1

Passive Skill 2

Passive Skill (Max)

Passive Skill (Ultimate)

• ปาร์ตี้ S.DMG 68%
• เมื่อตน HPน้อยกว่า 40%, ฟื้นเลือดตน 15% ของค่าสูงสุดทุกวินาที นาน 5 วินาที
CD: 16 Sec
• เพิ่ม Fury เมื่อโดนโจมตี
• ปาร์ตี้โดนDMG -30%, ตน ATK +5% จากค่า HP สูงสุด
• เพิ่มโอกาสที่ศัตรูโจมตีตนเอง
• ตน DMG(Add) +200% ของ HP สูงสุด
• A2 เพิ่ม STA +300% แทน
• ดูดเลือด +30%
• ฝ่ายเรา ATK +90% ตามจำนวนพรรคพวก
• ตน STA +25% ตามจำนวนพรรคพวก
• A3 บัฟปาร์ตี้ ATK +652%, P.DMG +50%, ตีเร็ว +55%

จุดเด่น

  • แกรมอวตาร หนึ่งในตัวโกงสุดของซีซั่น 4 เป็นทั้ง Tanker + DPS + Support ในตัวเดียวกัน แบบเต็มๆ เพิ่มอันดับและแต้มได้ทุกโหมด
  • อธิบายง่ายๆ ตามภาพ

จุดด้อย

  • อ่อนลงมากใน Season 5 (ดูในหัวข้อล่างสุด)
  • ใน PVP, กิลด์วอร์ ถ้าฆ่าหรือใบ้ ได้ก่อนใช้ A1 จะไม่โหดเท่าไหร่ แต่ถ้าทรานแกรมปางตายแล้วใช้ A1 ทัน มีโอกาสตายยกทีมสูง

TIP

  • เกจสะสมสกิลของแกรม อยู่ที่ 20 หน่วย มีขีดใต้หลอด HP
  • ถ้าต้องรอศัตรูเวฟใหม่บ่อยๆ อย่าง ชิงปราสาท หรือ นิมิตมาร (ไนท์แมร์) A2 ส่งผลดี เพราะจะเพิ่มเกจระหว่างรอเปลี่ยนฉาก (ตรงข้ามกับ Transcended Drunken Falcon ที่เกจลดระหว่างเปลี่ยนฉาก)

แนะนำเพิ่มเติม

การ์ดแนะนำ : ถ้าไปสายบอส STR 13% + สุ่ม 50% + Boss 46% (Season 4 แกรมลงบอสได้ทุกตัว) หรือจะมีพวก ตีเร็ว +27% ก็ได้เพราะทำให้สะสมเกจเร็วขึ้น แต่ไม่ดีเท่าใบอื่น ส่วน PVP อาจเน้น Damage แบบ STR 13% + สุ่ม 50% + Atk 39% หรือจะผสมการ์ดที่ป้องกันก็ได้ เพราะทรานทุกตัวมีโอกาสตายตั้งแต่เริ่มใน PVP ได้ ไม่เว้นแม้แต่สายถึกแบบแกรมอวตาร

Retention Effect (Season 5): ช่วงต้น Season 5 ถือว่าสำคัญ เพราะ STA เพิ่มเยอะสร้างความแตกต่างได้พอสมควร แต่หลังๆ ผลจะไม่ค่อยเด่น เพราะ Rune หาง่ายขึ้นและเพิ่ม STA ในสัดส่วนที่เยอะกว่า (+15% STA ต่อ Rune Level ช่วงก่อน 5-3 อัพได้ร่วมๆ 50 เลเวล) ส่วน AOE Damage ยังสำคัญอยู่เพราะใช้ในเกือบทุกโหมด รวมๆ เลยค่อนข้างบังคับให้ทำ
ด้านความยากในการเก็บ Effect ถือว่าพอสมควรเพราะตัวที่เหลือไม่นิยมทำหรืออัพสูงๆ กันนัก

Increases STA: +10%/30%/50%/70%

AOE Damage: +11%/33%/55%/77%

ผลสกิลลดลงใน Season 5 (ไม่รวมความแรงสกิล)

  • A1: ไม่ลบบัฟศัตรู, ไม่มีผลเลือดออก
  • A2: โดนลบบัฟได้
  • P2: ไม่ลดความเสียหายปาร์ตี้อีก ผลของเพิ่ม Atk 5% จากค่า HP สูงสุด เปลี่ยนเป็น 10% Damage จากค่า HP สูงสุด แทน (* ตัวเลขเพิ่ม แต่น่าจะเบาลง)
  • Max: ไม่ช่วยทำให้ตกเป็นเป้าโจมตีมากขึ้น, ไม่ช่วยเพิ่ม Damage จาก HP, ไม่เพิ่ม STA ให้ A2 อีก แต่เปลี่ยนเป็น Passive ลดความเสียหายทั้งปาร์ตี้แทน
  • Ultimate: ไม่เพิ่ม STA, ไม่บัฟ Atk พรรคพวก, ลดผลฟื้นเลือด, ไม่เพิ่ม Attack Speed ให้ A3

* ทรานเกือบทั้งหมดโดนลดความสามารถเพราะปรับการคำนวณใหม่ โดนมากโดนน้อยขึ้นกับความโหดในช่วง Season 4

แกรมอวตาร โดนปรับจนเสียหายใน Season 5  กับผู้เล่นแค่ล้างบัฟไม่ได้ก็เล่นยาก เจอพวกทีมอมตะ + ชุบ (มีผลอมตะ) รอสวนกลับด้วย Transcended Gaela ที่โจมตีเข้าเป้าชัวร์กว่า (มีเรื่องความแม่นยำ/หลบหลีกมีผลเยอะ อัดแม่นจนเต็มที่ก็ Miss ได้ โอกาสทีเดียวตายหมู่เลยยากขึ้น) ทำให้ความนิยมแกรมลดไปมาก โดนเนิร์ฟจนไม่ซัพพอร์ตตอนสู้บอส หน้าที่หลักๆ เหลือ TAG ได้บ้างเพราะไม่ค่อยติดปัญหาเรื่องอมตะ กับมอนสเตอร์ผ่านฉากยังคงโหดอยู่ในระดับหนึ่ง

แกรมอวตาร เทพประมาณ 1 เดือน ใน Chapter 4 ลงได้ทุกโหมด
Chapter 5 … ความเทพที่หายไป