เกม Apex Legend เป็นเกมแนวแบทเทิลรอยัล คล้ายพวก PubG, COD:Black Out แต่เล่นฟรี โหลดมาเล่นได้ทั้ง PC, PS4, XBox One และอนาคตมีแผนจะลงอีกหลายแพตฟอร์ม จุดเด่นเกมเน้นทีมเวิร์คแบบ Squad เป็นหลัก ทีมละ 3 คน จึงควรให้ความสำคัญกับสมาชิกในทีมเป็นพิเศษ สำหรับมือใหม่ควรเข้าใจวิธีการเล่นเบื้องต้นก่อน ซึ่งโหมดฝึกสอน Training ในเกม จะสอนในระดับหนึ่งอยู่แล้วก่อนจะได้ลงสนามจริง
Table of Contents
เลือกตัวละคร (Legend )
เมื่อเริ่มเกมต้องเลือกสมาชิกในทีม หรือที่เรียกว่า “Legend” มีตัวละครเริ่มต้นแบ่งตามจุดเด่นดังนี้
- Offensive: Bangalore / Mirage / Wraith
- Defensive: Gibraltar / Caustic
- Support: Lifeline / Pathfinder / Bloodhound
ในซีซั่น 1 ใช้ได้อิสระ 6 ตัว มี 2 ตัวต้องปลดล็อค คือ Caustic และ Mirage โดยใช้ Legend Tokens หรือ Apex Coins
แต่ละตัวละครจะมีจุดเด่นสามอย่าง คือ Tactical Ability / Passive Ability และ Ultimate Ability ที่ต่างกันไป ควรเลือกตัวละครในทีมตามความเหมาะสม ไม่สามารถเลือกตัวละครตัวเดียวกับสมาชิกในทีมได้
เพิ่มเติมเรื่องตัวละคร
ลงสู่พื้นพร้อม Jumpmaster
หลังเลือกตัว คนที่เลือกคนสุดท้ายที่ไม่ได้เลือกแบบ Auto จะได้เป็นคนกำหนดจุดที่ลง ซึ่งจะเป็น “Jumpmaster” ของทีม มีสมาชิกอีกสองคนจะติดตามลงพื้น สามารถยกเลิกติดตามได้ แต่ไม่ควรแยกกันตอนเริ่มเกม จึงควรติดตามผู้นำไป (ยกเว้นเล่นกับคนไม่รู้จัก) ก่อนถึงพื้นอาจเลือกแยกไปเก็บของในโซนใกล้ๆ จะได้ไม่แย่งของกัน
* เกม Apex Legend ไม่มีความเสียหายจากการตกจากที่สูง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการกดปุ่มก่อนถึงพื้น
ตำแหน่งที่เลือกลง ควรเลี่ยงจุดใหญ่ๆ ในดินแดน King’s Canyon ที่อาจปะทะกับทีมอื่นได้ แต่ก็ไม่ควรห่างจากแหล่งที่มีของมากเกินไป
Supply Ship
ช่วงกำลังลงพื้นจะเห็นจุดสีขาวกำลังเคลื่อนที่อยู่ ซึ่งเป็นยานเสบียงที่กำลังบิน ถือเป็นจุดลงพื้นที่น่าสนใจ เพราะมีของระดับสูงให้เก็บตั้งแต่เริ่มและสามารถลงพื้นหลังเก็บได้โดยเกมไม่มีความเสียหายจากการตกที่สูง แต่โอกาสปะทะกับทีมอื่นก็สูงเช่นกัน
ระบบ Ping สั่งทีม
Ping เป็นหนึ่งระบบเด่นของเกม Apex Legend คุณสามารถบอกพรรคพวกให้ทำตามได้โดยไม่ต้องใช้ไมโครโฟน และคอยฟังคนในทีมเวลาส่งสัญญาณ ซึ่งจะช่วยให้มีความเป็นทีมเวิร์คมากขึ้น
หาของดรอป
สีของไอเทม
ประสิทธิภาพของอาวุธแบ่งตามสีไอเทม ยิ่งขั้นสูงจะยิ่งเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพ
- Common = สีขาว
- Rare = สีฟ้า
- Epic = สีม่วง
- Legendary = ทอง
พื้นฐานการต่อสู้ / ลุย
ค่า HP และสี Damage
- พื้นฐานจะมีเลือด 100 เกราะอีก 4 ขีด (25 HP) รวมเป็น 200 HP
- ตัวเลขความเสียหายจะตามระดับเลเวลของเกราะ อย่าง ถ้าตัวเลขเป็นสีม่วง ศัตรูจะใส่เกราะ Level 3 อยู่
- กรณีตัวเลขเป็นสีแดง หมายถึง เป้าหมายไม่เหลือเกราะ และสีเหลือง เป็นการยิง Head Shot
คอยสังเกตตัวเลขความเสียหายจะทำให้เล่นง่ายขึ้น เช่น ถ้าเห็นตัวเลขสีแดง แสดงว่าใกล้ตาย อาจเข้าไปแลกตรงๆ ได้ รวมถึงพวกที่มีสีเกราะต่ำกว่าเรา ในขณะที่ถ้าเห็นตัวเลขเป็นเกราะขั้นสูงกว่าเรา อาจเลี่ยงการปะทะซึ่งๆ หน้า
รีบหาเกราะ
เริ่มมาจะยังไม่มีเกราะ ควรหา Armor ตามฉาก เพื่อเพิ่มพลังป้องกัน ระหว่างเล่นควรหาขั้นที่สูงขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสรอด โดยเฉพาะของระดับสีทอง จะมีโบนัสความสามารถเพิ่มเข้ามาด้วย
หาปืนและกระสุน
ปืนในเกมมีให้เลือก 6 แบบ คือ ปืนพก ปืนกลจู่โจม ปืนกลเบา ปืนกลหนัก ลูกซอง และสไนเปอร์ไรเฟิล เลือกใช้ตามความถนัด แต่ละปืนจะมีข้อดีและเสียต่างกันไป ควรพกปืน 2 ประเภทที่ใช้กระสุนต่างกัน
วิ่งเร็วโดยไม่ถืออาวุธ
สามารถทำให้เคลื่อนที่เร็วขึ้นได้ ซึ่งมีประโยชน์มากระหว่างเล่น โดยกดปุ่ม 3 ในพีซี (สี่เหลี่ยม ใน PS4 และ Y ใน XBox One)
เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วด้วย Jump Towers
แต่ละจุดในแผนที่ จะมีจุดให้ลอยตัวขึ้นที่สูงอย่างรวดเร็ว และใช้เครื่องร่อนต่อ ทำให้พุ่งไปเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ช่วยหนีตอนถูกบีบพื้นที่ หรือ ไล่ตาม-อ้อมหลังศัตรู ได้
ปิดฉากด้วยท่าเจ๋งๆ Finisher
คุณสามารถปิดฉากคู่ต่อสู้ที่กำลังอยู่บนพื้นได้ โดยเข้าใกล้ตัวละคร แล้วกดปุ่ม E บน PC (สี่เหลี่ยม ใน PS 4 และ X ใน Xbox One) จะเป็นการสังหารคู่ต่อสู้ด้วยท่า Finisher ของตัวละครนั้นด้วยท่าทางที่เซ็ตไว้ แต่ควรดูสถานการณ์ด้วยเพราะมีโอกาสถูกยิงจากผู้เล่นอื่น ยกเลิกการปิดฉากได้
เพื่อนตายชุบได้ที่ Respawn Beacons
เมื่อเพื่อนร่วมทีมตาย เราสามารถชุบชีวิตให้กลับมาเล่นต่อได้อีกครั้ง โดยทำตามขั้นตอนดังนี้
- เก็บ Banner ของตัวละครที่ตายภายในเวลา 90 วินาที
- หาจุด Respawn Beacons บนแผนที่ (จุดสีเขียว)
- ในเวลาเล็กน้อยในการชุบชีวิตเพื่อนร่วมทีม ให้กลับเข้ามาเล่นต่อได้ โดยมียานมาส่ง แต่ในสภาพไม่มีของในตัว
จุด Respawn Beacons ใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
* TIPS เพิ่มเติม จะเพิ่มภายหลัง