Table of Contents
คลาสไหนดีสุด ปืนอะไรดีสุด ออกของแบบไหนโหดสุด เป็นคำถามพื้นฐานที่เกมเมอร์ทั่วโลกอยากรู้ในทุกเกมอยู่แล้ว ซึ่งอาจไม่มีคำตอบที่ถูกต้องนัก แต่สำหรับเบื้องต้นก็มีคำแนะนำโดย ImMarksman ที่ได้ทดสอบช่วงเทสต์มาสักพัก ซึ่งคำแนะนำน่าสนใจสำหรับคนที่เพิ่งได้ลองช่วง Beta
ตัวละครสามารถปรับแต่งของได้จาก Loadouts เริ่ม Custom ได้ตอน Level 4 และปรับพวก Attachment ได้จากการปลดล็อคเลเวล
สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นลองอ่าน 8 Tips ที่ควรรู้ใน Call Of Duty: Modern Warfare 2019 ก่อนครับ
Field Upgrades แนะนำ
Recon Drone โดรนแบบบังคับ ใช้งานได้ดีสุด ดีกว่า โล่ หรือ ที่เติมกระสุน ช่วยทีมโดยการมาร์คตำแหน่งศัตรูให้
แต่ถ้าเก็บแต้มหรือต้องการตั้งแคมป์ซุ่มยิง ก็ใช้ที่เติมกระสุนได้
Killstreak แนะนำ
ของที่เรียกได้ระหว่าง เซ็ตได้ 3 อัน แนะนำ
- UAV (4 Kills)
- Cruise Missile (5 Kills)
- Vtol Jet (8 Kills)
ส่วนของที่ใช้ได้ในช่วงเบต้า Personal Radar (3 Kills) เรียกง่ายแต่ไม่ค่อยมีประโยชน์นัก, Precision Airstrike (5 Kills) หวังผลไม่ได้มาก ส่วนพวก Chopper (10 Kills) เรียกยากและนาน
Loadouts แนะนำ
ปืนหลัก (Primary Weapon)
SMG – MP 5
บางคนแนะนำ MP7 ที่ใช้ดีกว่า Stat ที่เห็น แต่ถ้าดูจาก Stat MP 5 ค่อนข้างดีกว่า ถ้าปลดล็อคของติดตั้งปืน จะยิงสู้ปืนกลได้ดีและยิงสู้ในระยะค่อนข้างไกลได้
Shotgun – 725
ปืนลูกซองแบบแรงมากและยิงได้ค่อนข้างไกล ใช้งานดีกว่า Model 680
Assault Rifle – M13 หรือ M4A1
เรื่องระยะและความแม่นยำ M4A1 ทำได้ดีกว่า ส่วน M13 ดีเรื่องยิงรัวและแรงดีดน้อย
พวกปืนนิยมในเกม FPS แบบ AK-47 ไม่ค่อยดีนักเพราะแรงดีดสูงมาก แต่ถ้าเล่นจนเลเวลปืนสูง อาจจะคุมปืนได้ดีขึ้น
ปืนรอง (Secondary Weapon)
ปืนพก – .50GS
ปืนแม็กนั่มที่ใช้งานดีกว่า MP19
Perk แนะนำ
Perk 1
Double Time – เพิ่มระยะ Tactical Sprint (วิ่งเร็วโดยกด Sprint 2 ครั้ง) เป็น 2 เท่า, เคลื่อนที่เร็วขึ้น 30%
อื่นๆ
- Overkill – พกปืนหลักได้ 2 กระบอก
- Scavenger – เก็บกระสุนจากคนตายได้
- E.O.D. – ลดความเสียหายจากระเบิด (ไม่นับพวก Killstreak) แฮ็ค Claymores, Proximity Mines และ C4 ได้
- Cold-Blooded (ปลดล็อค Level 25) – ไม่ถูกตรวจจับโดยพวก AI, อุปกรณ์ตรวจความร้อน ทนต่อ Snapshot Grenades
- Quick Fix (ยังไม่มีใน Beta) – เร่งการฟื้นเลือดจากการฆ่าอีกฝ่าย, ยึดเป้าหมาย และครอบครองเป้าหมาย
กรณีไม่เน้นวิ่ง อาจเลือก Perk อื่นแทนตามความเหมาะสม
Perk 2
Ghost (Level 13) – ทำให้ไม่ถูกตรวจจับโดย UAVs, Radar Drones, Heartbeat Sensors และ High Alert (Perk 2) รวมถึงมาร์คจากศัตรูที่ฆ่า
อื่นๆ
- Restock – เติม Equipment อัตโนมัติ ทุก 30 วินาที
- Hardline – สะสม Killsteaks ลดจากเดิม 1 Kill
- Hight Alert -มีการเตือน เมื่อมีศัตรูมองเห็นเรา
- Kill Chain (ปลดล็อค Level 26)
กรณีต้องการใช้ความสามารถพิเศษจากพวกสะสมคิล, ใช้ระเบิดบ่อย หรือ เตือนศัตรูที่ซุ่มอยู่ อาจลองใช้ทักษะอื่นแทน
Perk 3
Sharpnel – เกิดพร้อมกับระเบิดมือ (Lethal Equipment) มากขึ้น ระเบิดมีผลทำให้ศัตรูฟื้นเลือดช้าลง
อื่นๆ
- Tune Up – เพิ่ม Field Upgrades เร็วขึ้น 50%
- Amped – สลับอาวุธเร็วขึ้น, Rocket Launcher รีโหลดเร็วขึ้น
- Battle Hardened – ลดผลของระเบิด Flash, Stun, EMP
- Spotter (ปลดล็อค Level 29) เห็นศัตรู, Field Upgrade, Killstreak ผ่านกำแพงได้ บอกให้ทีมทราบ
- Tracker (ยังไม่มีใน Beta) มองเห็นรอยเท้าศัตรู
ถ้าโหมดตายแล้วไม่ฟื้น แบบ Domination พวก Battle Hardened จะดีกว่า ลองปรับตามความเหมาะสม
Lethal
Frag Grenade ระเบิดมือ
Tactical
Flash Grenade ระเบิดแสง
ตัวเลือกอื่นอย่าง Stun, Smoke, Stim (ฟื้นเลือด, เติม Sprint) ใช้ได้ดีในบางสถานการณ์และตามสไตล์การเล่นของแต่ละคร
มีที่ยังขาดในเบต้าถึง 4 อย่างที่ต้องใช้เลเวลสูงขึ้น คือ Snapshot Grenade, Gas Grenade, Heartbeat Sensor และ Decoy Grenade ซึ่งต้องรออัพเดตในโอกาสต่อไป ดูจากคำอธิบายน่าใช้ไม่น้อยเหมือนกัน
Gunsmith ของปรับแต่งปืน
ปลดล็อคตามเลเวลปืน ทั้งส่วน Barrel, Perk, ที่จับ, เป้าเล็ง, กระสุน ขึ้นกับปืนที่ใช้ ติดตั้งได้สูงสุด 5 อย่าง บางอย่างมีข้อเสียพ่วงมาด้วย
ในส่วนนี้ขึ้นกับความชอบตามบุคคล ลองปรับแต่งทดสอบกันดูครับ
* รายละเอียดอาจมีการแก้ไขในเวอร์ชั่นวางจำหน่าย 25 ตุลาคม 2562 เพราะมีการปรับรายละเอียดมาตั้งแต่ Alpha Test อย่าง Double Time ตอนเทสต์เคยมีความสามารถ “เพิ่ม Super Sprint เป็น 3 เท่า แล้ววิ่งกลับมาเต็มทันทีหลังฆ่าคนได้” ซึ่งต่างจากตอนเบต้าเทสต์