บางคนที่เข้าเกมเลยโดยไม่สนใจเรื่อง Setting น่าจะเคยเจอปัญหาและเรื่องน่าขัดใจจากการล็อคเป้า เคลื่อนที่ จนบางทีก็แพ้เพราะไม่ถนัดการกดพลาด พุ่งไปตายก็มีให้เห็นกันบ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเกมแนว MOBA หลายเกม มักจะเซ็ตปุ่มเริ่มต้นมาได้ไม่ค่อยดี คือ อาจจะเหมาะกับผู้เล่นบางกลุ่ม แต่ไม่เหมาะกับบางสไตล์ จึงแนะนำให้ใส่ใจกับเรื่อง Setting สักนิด เพื่อการเล่นเกมที่ดีขึ้น
* ใช้ได้ทั้งมือถือ, Nintendo Switch และแพทฟอร์มอื่นที่อาจเพิ่มภายหลัง แต่ในที่นี้จะพูดถึงมือถือเป็นหลัก และช่วงที่เขียนยังไม่มี Setting ภาษาไทย อาจมีเปลี่ยนภาษาในภายหลัง
วิธีเข้าหน้าเซ็ตติ้ง
ที่หน้าหลัก เข้าที่มุมซ้ายบนที่หน้าตัวละคร แล้วเลื่อนเมนูมาด้านล่างจะเห็นหัวข้อ Setting อยู่ (สามารถปรับในระหว่างสู้ก็ได้โดยเมนูขวาบน)
Setting ที่ควรให้ความสำคัญ
- Graphics Quality : Recommended (ขึ้นกับรุ่นของมือถือ)
- Frame rate : High (ถึง Recommended Low แต่ถ้าเล่น High แล้ว FPS ไม่ตกมาก ก็แนะนำให้ High)
- Opponent Lock-On Priority : Lowest Remaining HP (Value)
- Attack Controls : Advanced Controls
- Automatic Basic : Attacks Off
- Lock-On Icon : On
- Move Aim Settings : Movement
- Scoring Controls : Hold Button Down
- In-Motion Pursuit Mode : Off
- Pokemon Move Controls : Slide Away
- Move Panel Sensitivity : ค่อนข้างสูง (70%-80% ของ High)
- Camera Follows Moves : On
- Move Aim Follows Movement Direction : On
- Move Aim Snaps to Nearby Targets : On
- Camera Movement : Slide
- Camera Sensitivity : High (เต็มขีด)
อธิบายเหตุผล
Opponent Lock-On Priority : Lowest Remaining HP (Value)
แบบ Value จะเป็นการโจมตีตัวเลือกน้อยสุดก่อน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าเลือกแบบ Percent อาจจะหันไปตีตัว Defender ที่เลือดเหมือนน้อย แต่ยังเหลือเยอะและ Def หนา ถ้าเลือกแบบ Value จะหาตัวที่เลือดน้อยสุดได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะตอนทีมไฟต์
การเลือกแบบอื่นก็มีข้อดีต่างไป สามารถปรับได้ระหว่างเล่นเกมให้เหมาะสมกับโปเกมอนตัวนั้น
- Percent มีข้อดีตรงทำให้ไม่ไปโจมตีโปเกมอนป่าที่เลือดเต็มและอยู่ในระยะหวังผล แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเลือดไม่เต็มจากโดนตอดเลือด ทำให้ยังมีโอกาสพลาดได้
- Closest จะเหมาะกับโปเกมอนบางตัวที่ต้องสแปมสกิลระยะใกล้สุด โดยเฉพาะตัวที่มีคอมโบระยะประชิด
แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน ควรฝึกกดค้างเพื่อเลือกเป้าหมายและทิศทางเองจะดีกว่า ซึ่งจะไม่สน Option ที่เลือกไป
Attack Controls : Advanced Controls
สิ่งที่เพิ่มเติมจากเดิม คือ ปุ่มโจมตี Wild Pokemon ซึ่งจะช่วยให้ล็อคโปเกมอนป่าง่ายขึ้น อาจฉวยโอกาสขโมยลาสช็อตจากฝ่ายตรงข้ามได้ดีขึ้น
Automatic Basic : Attacks Off
ถ้าตั้ง On ไว้ บางทีกำลังหนี อาจเผลอไปโจมตีฝ่ายตรงข้ามจนตายเองได้ แนะนำให้กด Off
Lock-On Icon : On
สำคัญมาก เพราะจะเห็นโปเกมอนฝ่ายตรงข้ามแถวปุ่มสกิลเรา ซึ่งง่ายต่อกดเพื่อล็อคเป้าพวกตัว Def น้อย อย่าง Attacker ตัวนิ่มๆ
Move Aim Settings : Movement
ถ้าเลือก Icon จะยาก โดยเฉพาะสกิล 1 ที่อยู่ล่างจอ กว่าจะลากไปถึงไอคอนศัตรูที่อยากใช้สกิลอัด แนะนำให้เลือกใช้แบบกำหนดทิศทางจะง่ายกว่า
Scoring Controls : Hold Button Down
จะเลือกกดแบบทีเดียวก็ได้ (Press Button) ซึ่งจะอิสระกว่าในการมองศัตรูที่อาจเข้ามา แต่การกดค้างไว้ก็ไม่ได้ต่างกันมาก ขึ้นกับความถนัด
In-Motion Pursuit Mode : Off
คล้าย Automatic Basic ปิดไว้จะดีกว่า
Pokemon Move Controls : Slide Away
ถ้าถนัดใช้ไอคอนพื้นฐานก็ได้ แต่ปุ่มสีแดงยกเลิกจะอยู่สูงมาก แนะนำให้เลือก Slide away จะยกเลิกสกิลเวลากดผิดได้เร็วกว่า
Move Panel Sensitivity : ค่อนข้างสูง (70%-80%) หรือ High เต็มก็ได้
ตามความถนัด เลือก อาจเลือกเต็ม 100% ก็ได้
Camera Follows Moves : On
เพิ่มขอบเขตระยะการมองเห็น โดยเฉพาะสกิลที่ไกลเกินขอบจอ จะมีการขยายจนถึงปลายทาง
Move Aim Follows Movement Direction : On
ควรเลือกเป็น On เพราะมีผลกับพวกสกิล (Move) ประเภทพุ่ง เวลาหนีถ้ากด Off บางทีจะไปล็อคตัวที่ไล่ฆ่าเราอยู่ ถ้า On จะพุ่งหนีถูกทาง และ ไล่ตามศัตรูได้ตรงเป้าหมาย
* Move ในที่นี้หมายถึง สกิลของโปเกมอน ไม่ใช่ Move ที่เป็นเคลื่อนที่
Move Aim Snaps to Nearby Targets : On
กดสกิลจะเล็งตัวที่ใกล้สุดเสมอ ส่วนถ้าต้องการล็อคเป้าเฉพาะให้เลือกปุ่มอื่นแทน
Camera Movement : Slide
เลือก Slide จะเลื่อนไปมองฉากง่ายกว่า แบบ Movement Panel จะมีอีกปุ่มสำหรับเลื่อนจอเพิ่มเข้ามา ซึ่งทำให้เล่นยาก
Camera Sensitivity : High (เต็มขีด หรือสูง)
ช่วยเลื่อนจอไปดูเหตุการณ์ในจุดที่ต้องการง่ายขึ้น โดยเฉพาะคนที่ไม่อยากกด Minimap เพื่อเลื่อนไปดู
เพียงเท่านี้ น่าจะช่วยให้เล่นได้ง่ายขึ้น ถ้ายังมีจุดที่ขัดใจอยู่ก็ปรับ Setting ตามความถนัดของเรา